นักเรียนโรงเรียนประถมซ่างเหวินตู ในเมืองผิงซาน มณฑลเหอเป่ย  ต่างจากที่อื่น ๆ คือ ครูพละของที่นี่ นอกจากรับผิดชอบวิชาพลศึกษาแล้ว  ยังสอนวิชาคุณธรรม วิทยาศาสตร์ ภาษาจีน คณิตศาสตร์ และอังกฤษด้วย ครู หนุ่มเพียงคนเดียวในโรงเรียนแห่งนี้รับผิดชอบสอนหนังสือ 6 วิชา จากทั้งหมด  9 วิชา ครูคนนี้ชื่อ จ้าว เผิงเฟิย จบการศึกษาระดับบัณฑิตศึกษาด้านพลศึกษา จากมหาวิทยาลัยยูนนาน เดิมเขาอาศัยอยู่ในเมืองใหญ่ แต่เลือกที่จะมาสอนหนังสือที่โรงเรียนประถมในเขตภูเขา เหตุผลของเขานั้นอาจมีใครเดาออกบ้างแล้ว นั่นก็คือ เพื่อความรัก

นางเหยียน เชี่ยนหนาน ภรรยาของ จ้าว เผิงเฟิย ชาวอำเภอผิงซาน  ทั้งคู่เป็นเพื่อนร่วมชั้นระหว่างเรียนมหาวิทยาลัย ในปี 2016 เหยียน เชี่ยนหนาน จบการศึกษาด้านการสอนภาษาจีนสำหรับชาวต่างชาติ ได้สมัครไปสอนภาษาจีนอยู่ที่ประเทศเนปาล ก่อนออกเดินทาง เธอฝากกับจ้าว เผิงเฟิย ว่า "ถ้ามีเวลา ช่วยไปดูแลพ่อแม่และคนที่บ้านให้ด้วย" ด้วยเหตุนี้ จ้าว เผิงเฟิย  จึงมาที่อำเภอผิงซานและเทศบาลก็ได้จัดให้ไปสอนที่โรงเรียนประถมซ่างเหวินตู ซึ่งตั้งอยู่ในเขตเขาลึก เมื่อครูใหญ่เฉิน กุ้ยเฉียง เห็นชื่อของเขา ก็คิดว่าเป็นครูผู้หญิง เขาบอกว่า "พอได้พบครูจ้าวเป็นครั้งแรกแล้ว ก็รู้สึกดีใจมาก เพราะสามารถช่วยงานได้หลายอย่าง"

ครูใหญ่ดีใจ แต่สำหรับจ้าว เผิงเฟิย กลับรู้สึกต่างจากที่คิดไว้ เขามาสอนพลศึกษา แต่โรงเรียนขาดครูสอนวิชาอื่น ๆ ด้วย เขาจึงต้องรับหน้าที่เป็นครูใหญ่ของชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 แถมยังต้องสอนวิชาคณิตศาสตร์  ภาษาอังกฤษ และภาษาจีน เป็นต้น รวม 6 วิชา ตอนแรก เขาคิดว่าเป็นนักศึกษาระดับบัณฑิตศึกษาและการสอนหลักสูตรระดับประถมศึกษาเป็นเรื่องง่าย แต่เมื่อเขาสอนวิชาคณิตศาสตร์ครั้งแรกจบ จ้าว เผิงเฟิยก็ตระหนักได้ว่าสิ่งที่เขาคิดนั้นง่ายเกินไป เขากล่าวว่า "ผมรู้สึกประหม่าและกังวลมาก  เพราะไม่รู้จะสอนหลักสูตรนี้อย่างไร และจะดำเนินการอย่างไร”

จ้าว เผิงเฟิย พบว่า ชั้นเรียนภาษาจีนที่เขาสอนไม่มีชีวิตชีวา การเขียนบนกระดานดำไม่เรียบร้อย และชั้นเรียนภาษาอังกฤษมีปัญหาในการออกเสียงที่ไม่ถูกต้อง นอกจากปัญหาในชั้นเรียนแล้ว เขายังรู้สึกเหงาใจ เพราะ นักเรียนต้องกลับบ้านหลังเลิกเรียน เขาจึงเริ่มใช้เวลาว่าง สำหรับการเตรียมบทเรียนพร้อมปรึกษาครูคนอื่น ๆ ตอนนี้ จ้าว เผิงเฟิย สามารถสอนวิชาต่าง ๆ ได้อย่างง่ายดาย ครูในโรงเรียนมักพูดติดตลกว่า ในบรรดาครูพลศึกษา จ้าว เผิงเฟิย สอนคณิตศาสตร์ได้ดีที่สุด และในบรรดาครูคณิตศาสตร์ จ้าว เผิงเฟิย ก็สอนพลศึกษาได้ดีที่สุด โรงเรียนแห่งนี้ เนื่องจากมีครูมืออาชีพเป็นครั้งแรก โรงเรียนฯ จึงเชิญผู้ได้รับรางวัลเหรียญทองในงานกีฬาประจำอำเภอ

ในชั้นเรียน จ้าว เผิงเฟิย เป็นครูที่จริงจัง หลังเลิกเรียน เขากลับเป็นพี่ชายที่ร่วมสนุกกับเด็ก ๆ  ในโรงเรียนมีนักเรียน 11 คน ครึ่งหนึ่งเป็นเด็กที่มีพ่อแม่ออกไปทำงานยังต่างถิ่น จ้าว เผิงเฟิย มักเล่าชีวิตในมหาวิทยาลัยให้เด็ก ๆ ฟัง เพื่อช่วยให้เด็ก ๆ ได้เปิดหูเปิดดา

เดือนสิงหาคมที่ผ่านมา สัญญาการจ้างงานสามปีของ จ้าว เผิงเฟิย ถือว่าครบกำหนดแล้ว หลังจากตัดสินใจแล้ว เขาก็ได้ยื่นใบสมัครยังสำนักงานการศึกษาของอำเภอพร้อมตัดสินใจที่จะอยู่ประจำที่โรงเรียนประถมซ่างเหวินตูต่อไป จ้าว เผิงเฟิย ให้เหตุผลสองประการ ดังนี้ "ประการแรก คือ ประเพณีพื้นบ้านในท้องถิ่นนั้นค่อนข้างเรียบง่าย สภาพแวดล้อมดีเป็นพิเศษ มีทั้งภูเขาสีเขียวและแม่น้ำใสสะอาด ครูและนักเรียนก็มีความจริงใจเป็นพิเศษ ครูและนักเรียนมีความรู้สึกเหมือนอยู่ในครอบครัวเดียวกัน ประเด็นที่สอง คือ เด็ก ๆ  ให้กำลังใจกับเขาอย่างมาก พวกเขาอยากได้ความรู้ใหม่และกอดฉันไว้ไม่อยากให้ไป" จ้าว เผิงเฟิย กล่าวว่า  อยากใช้ความพยายามเล็ก ๆ น้อย ๆ ของตน สร้างความยิ่งใหญ่ในอานาคตแก่เด็ก ๆ  

Tim/lei