ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงได้กล่าวคำปราศรัยขณะเข้าร่วมการอภิปรายทั่วไปของการประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ ครั้งที่ 76 ผ่านวีดิทัศน์จากกรุงปักกิ่ง เมื่อวันที่ 21 กันยายนว่า โลกอยู่ที่ทางแยกของประวัติศาสตร์อีกครั้ง เขาเชื่อมั่นว่ากระแสการพัฒนาและความก้าวหน้าอย่างสันติของมนุษย์ไม่มีวันหยุดและให้ข้อเสนอและมาตรการใหม่ในประเด็นต่างๆ เช่น ความสามัคคีในการต่อสู้กับการแพร่ระบาด การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ การพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และการปรับปรุงระบบธรรมาภิบาลโลกสะท้อนความต้องการทั่วไปและความคาดหวังร่วมกันของประชาคมโลกโดยเฉพาะอย่างยิ่งของประเทศกำลังพัฒนา และได้กำหนด "ใบสั่งยาของจีน" สำหรับการปรับปรุงธรรมาภิบาลโลก

ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง กล่าวย้ำถึงการต่อสู้กับการแพร่ระบาดทั่วโลก เน้นการเสริมสร้างความเข้มแข็งในการป้องกันและควบคุมร่วมกันระหว่างประเทศ โดยให้วัคซีนเป็นผลิตภัณฑ์สาธารณะระดับโลก สนับสนุนและมีส่วนร่วมในการตรวจสอบต้นตอตามหลักวิทยาศาสตร์ทั่วโลก และกล่าวว่าตลอดปีนี้จีนจะพยายามสนองวัคซีนให้ได้รวมทั้งสิ้น2 พันล้านโดส และบนพื้นฐานของการบริจาค 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯกับโครงการโคแวกซ์ยังจะบริจาควัคซีนอีก 100 ล้านโดสให้ฟรีแก่ประเทศกำลังพัฒนาภายในปีนี้ด้วย

ในประเด็นเศรษฐกิจโลก ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงได้เรียกร้องให้ยืนหยัด "ให้ความสำคัญกับการพัฒนา" "ประชาชนเป็นสิ่งสำคัญที่สุด" "ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมใหม่" และ "การอยู่ร่วมกันอย่างกลมกลืนระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติ" และ กล่าวว่าจีนจะให้ความช่วยเหลือเงินทุนระหว่างประเทศอีก 3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในอีก 3 ปีข้างหน้า และประกาศว่าจีนจะสนับสนุนการพัฒนาพลังงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและคาร์บอนต่ำแก่ประเทศกำลังพัฒนาอย่างจริงจัง ตลอดจนจะไม่สร้างโครงการไฟฟ้าพลังถ่านหินในต่างประเทศอีกต่อไป นายโรเบิร์ต ลอว์เรนซ์ คุห์น ประธานมูลนิธิคุห์นแห่งสหรัฐอเมริกาชี้ว่าข้อริเริ่มเพื่อการพัฒนาระดับโลกที่ประธานาธิบดีสีเสนอมานี้ จะอัดฉีด "พลังบวก" สู่การพัฒนาระดับโลก

ในส่วนของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศและพหุภาคีนิยม นายสี จิ้นผิงกล่าวว่า ประชาธิปไตยไม่ใช่สิทธิบัตรของประเทศใด แต่เป็นสิทธิของประชาชนทุกประเทศการแทรกแซงทางทหารจากภายนอกและสิ่งที่เรียกว่าการเปลี่ยนแปลงประชาธิปไตยจะส่งผลร้ายไม่สิ้นสุดต้องเลิกล้มการตั้งกลุ่มเล็กและเกมผลรวมเป็นศูนย์โลกนี้มีเพียงระบบเดียว ระเบียบเดียวและกฎชุดเดียว ซึ่งการอภิปรายเหล่านี้เอื้อต่อการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างประเทศรูปแบบใหม่ที่มีการเคารพซึ่งกันและกัน ความเป็นธรรม ความยุติธรรม และความร่วมมือแบบได้ชัยชนะร่วมกัน นายวิลเลียม โจนส์ ประธานสำนักวอชิงตันของนิตยสาร "Executive Intelligence Review News Service " ของสหรัฐฯเชื่อว่า นายสี จิ้นผิงย้ำว่าจีน "จะไม่รุกราน กลั่นแกล้งหรือครองความเป็นใหญ่บนโลก" ซึ่งตรงกันข้ามอย่างชัดเจนกับคำกล่าวอ้างของผู้นำตะวันตกบางคนที่ว่า " นำโลกโดยค่านิยมของพวกเขา"

ข้อเสนอและมาตรการใหม่ๆที่ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ประกาศในการประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติครั้งนี้ พิสูจน์ให้เห็นอย่างชัดเจนว่าจีนเป็นผู้สร้างสันติภาพของโลก เป็นผู้มีส่วนสนับสนุนในการพัฒนาระดับโลก เป็นผู้พิทักษ์ความสงบเรียบร้อยระหว่างประเทศ และเป็นผู้ให้บริการผลิตภัณฑ์สาธารณะมาโดยตลอดและย่อมใช้การพัฒนาใหม่ของตัวเองให้โอกาสใหม่แก่โลก ซึ่งเป็นทางเลือกทางประวัติศาสตร์ที่ลงมือปฏิบัติโดยจีน และยังเป็นคำมั่นและความรับผิดชอบของจีนที่มีต่อโลกอีกด้วย

Yim/kt/cui