เวลาไปเลือกซื้อของ ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ตัดสินใจหยิบและจ่ายเงินคืออะไร บางคนบอกว่าความชอบล้วนๆ บางคนบอกว่าเลือกของที่ถูกไว้ก่อน บางคนก็บอกขอแบบทั้งถูกและดีด้วย ซึ่งแน่นอนว่าถูกและดีนั้นย่อมไม่มี ถ้าเป็นของดีในราคาที่เหมาะสมอาจจะพอหาได้

แต่เราจะเชื่อมั่นได้อย่างไรว่าของแบบไหนที่คุณภาพดี

ถ้าเป็นของกิน อย่างน้อยก็พลิกหา "อย" ที่ไม่ย่อมาจากคำว่า "อร่อย" ก็คงพอช่วยให้มั่นใจในคุณภาพได้อีกทางหนึ่ง แต่ถ้าเป็นสินค้าอย่างอื่นละ เราจะมั่นใจได้อย่างไร มีมาตรฐานสินค้าอะไรมาการันตีไหม

กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศในสังกัดกระทรวงพาณิชย์คำนึงถึงเรื่องนี้ จึงได้ให้กำเนิด T Mark ซึ่งย่อมาจาก Thailand Trust Mark ขึ้นมา ซึ่งแปลตรงตัวได้ว่าเป็น สัญลักษณ์แห่งความเชื่อมั่นที่การันตีสินค้าและบริการของไทย

สัญลักษณ์ T Mark : Thailand Trust Mark

มี T Mark แล้วดียังไง

เครื่องหมาย T Mark ออกโดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ โดยพิจารณามอบให้กับผู้ส่งออกด้านสินค้าและบริการที่มีคุณภาพได้มาตรฐานสากล น่าไว้วางใจ ช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีและมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้า นับได้ว่าเป็นเครื่องมือทางการตลาดแบบหนึ่งที่จะเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในเวทีโลก

ทำอย่างไรถึงจะได้รับตรา T Mark

อันดับแรก 1) ก็ต้องขึ้นทะเบียนเป็นสมาชิกผู้ส่งออกก่อน 2) มีหนังสือรับรองมาตรฐานภายในประเทศหรือระดับสากล 3)ได้รับการรับรองมาตรฐานอุตสาหกรรมสีเขียว (Green Industry) 4) ได้รับรองมาตรฐานแรงงานไทยระดับพื้นฐาน 5) มีการประเมินด้านการดำเนินงานที่ผลกระทบต่อสังคม (CSR in Process)และ 6) มีมูลค่าการส่งออก 5 ปี ย้อนหลังเฉลี่ยไม่น้อยกว่า 3 ล้านบาทหรือมูลค่าการขายในประเทศ 5 ปี ย้อนหลังไม่ต่ำกว่า 5 ล้านบาท

ตัวอย่างสินค้าไทยประเภทเครื่องปรุงและอาหารที่ได้รับตรา T Mark

สิทธิประโยชน์ของผู้ได้รับ T Mark

หลักๆ คือได้เข้าร่วมกิจกรรมส่งเสริมการส่งออกทั้งในและต่างประเทศ ได้รับการประชาสัมพันธ์ มีส่วนลดค่าใช้จ่ายในงานแสดงสินค้าระหว่างประเทศ เวลาไปสมัครร่วมกิจกรรมต่างๆ ก็ได้รับการพิจารณาเป็นลำดับแรกๆ รวมถึงการเข้าคอร์สเสริมสร้างความแข็งแรงของแบรนด์ พัฒนาผลิตภัณฑ์ ศักยภาพการส่งออก และอื่นๆ

T Mark มีหมดอายุหรือไม่ แล้วจะติดไว้ที่ไหนได้บ้าง

เครื่องหมาย T Mark มีอายุ 3 ปี และสามารถนำไปติดไว้บนฉลากสินค้า แผ่นพับ เอกสารเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ กระทั่งนามบัตรของบริษัทก็ยังใช้ได้

แบรนด์ไทยที่ได้รับตรา T Mark ทั้งประเภทสินค้าและบริการ

สินค้าเราจะยื่นขอ T Mark บ้างได้ไหมนะ

ประเภทของสินค้าที่สามารถขอ T Mark ได้แบ่งเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ สินค้าและบริการ ถ้าแยกย่อยลงไปก็คือ 1) สินค้า: อาหาร อุตสาหกรรมหนัก ไลฟ์สไตล์ แฟชั่น อื่นๆ และแบบ 2) ธุรกิจบริการ: โรงพยาบาล/คลินิก ส่งเสริมสุขภาพ และการศึกษานานาชาติ

เอาเป็นว่าถ้าสนใจจะยื่นขอ T Mark สามารถเข้าไปดูรายละเอียดได้ตามลิงค์นี้เลย http://www.thailandtrustmark.com/th/apply

ธุรกิจสปาที่ไทยมีชื่อเสียงและได้รับการยอมรับในระดับโลกก็สามารถขอตรา T Mark ได้

แล้ว T Mark ต่างกับ Thailand's Brand ยังไง

Thailand's Brand เป็นตราสัญลักษณ์ที่เราอาจจะคุ้นหน้าคุ้นตามากกว่า ทั้งสองสัญลักษณ์นี้ล้วนเป็นตัวการันตีว่าสินค้านี้เป็นสินค้า Made in Thailand เชื่อใจในคุณภาพได้เลย

แต่เจ้าตัว Thailand's Brand นั้นออกมาก่อน และพอในปี พ.ศ. 2555 หลังจากที่กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศได้ทำการวิจัยความคาดหวังของผู้บริโภคแล้วพบว่าต้องมีการปรับปรุงเพิ่มเติมพัฒนา จึงได้ออกตราสัญลักษณ์ตัวใหม่ คือ T Mark ที่ค่อนข้างจะมีรายละเอียดเยอะและคำนึงถึงสังคม สิ่งแวดล้อมมากขึ้น ตามเทรนด์การบริโภคโลกในยุคปัจจุบัน เรียกได้ว่าตอกย้ำจุดแข็งและสร้างความโดดเด่นในเอกลักษณ์ (Brand Identity) เป็นคุณภาพที่มั่นใจได้ตั้งแต่การผลิตจนถึงมือผู้บริโภค

ตราสัญลักษณ์ Thailand's Brand

T Mark กับการเข้าไปยังตลาดจีน

เนื่องจากคนจีนชอบเมืองไทย ชอบอาหารไทย และชอบสินค้าไทย จึงเห็นสินค้าไทยแท้และเทียมในตลาดจีนมากมายไม่ว่าจะเป็นแบบออฟไลน์หรือแบบออนไลน์

ตัวอย่างสินค้าจีนที่พยายามเลียนแบบว่าเป็นไทย มองยังไงก็ยังงงๆ

(ภาพจาก: ThaiBizChina.com)

โดยเฉพาะสินค้าเทียมนั้น คนจีนส่วนใหญ่ที่ไม่เข้าใจผิด พอเห็นตัวอักษรภาษาไทยบนหีบห่อ หรือข้อความประชาสัมพันธ์สินค้าว่ามาจากไทย ก็พากันหลงเชื่อซื้อไป พอกินหรือใช้แล้วคุณภาพไม่ดี ก็เกิดการบอกกันปากต่อปากว่าสินค้าไทยไม่ดี ทำให้ภาพลักษณ์สินค้าไทยเสียหาย นี่ยังไม่รวมถึงของเลียนแบบที่ก๊อปปี้จริงจังตั้งแต่หีบห่อไปจนถึงชื่อเสียงเรียงนาม ทำเอาเจ้าของตัวจริงปวดเศียรเวียนเกล้ากันมานักต่อนัก

ชาวจีนให้ความสนใจและชื่นชอบผลิตภัณฑ์จากประเทศไทย

(ภาพจาก : Facebook ศูนย์ TSTC)

ศูนย์ข้อมูลเพื่อธุรกิจไทยในจีนแห่งนครเซี่ยงไฮ้แนะนำว่าการตีตราสินค้าไทยจะช่วยขจัดและลดปัญหาการลอกเลียนแบบในเมืองจีน ป้องกันการละเมิดลิขสิทธิ์ แถมยังช่วยเพิ่มยอดขายได้อีกด้วย ผู้ผลิตสินค้ารวมถึงตัวผู้ส่งออกควรร่วมแรงร่วมใจ รวมถึงตระหนักถึงความสำคัญในเรื่องนี้ ยกระดับมาตรฐานสินค้าเพื่อให้ได้รับการตีตรา ซึ่งถือว่าคุ้มค่าน่าลงทุน (อ้างอิง: ThaiBizChina.com http://bit.ly/2xSWigR)

หากมองในแง่กำลังซื้อ ตอนนี้คนจีนมีรายได้มากขึ้นและค่านิยมในการบริโภคเริ่มเปลี่ยนไป เน้นคุณภาพ เน้นสินค้าของดี ราคาถูกแพงไม่ใช่ประเด็น สินค้าที่ติดตรา T Mark น่าจะเข้าไปครองใจผู้บริโภคชาวจีนที่เป็นชนชั้นกลางขึ้นไปได้ไม่ยาก

เรียบเรียงและรายงาน: อรอนงค์ อรุณเอก 林敏兒