ผู้แทนองค์กรสื่อฯ ของไทยร่วมประชุมสุดยอดสื่อมวลชนในเอเชียและฟอรั่มเอเชียโป๋อ๋าว
  2018-04-25 13:39:22  cri

วันที่ 8-11 เมษายนที่ผ่านมา การประชุมสุดยอดองค์กรสื่อมวลชนในเอเชียจัดขึ้นที่เมืองซันย่า มณฑลไห่หนานของจีน การประชุมครั้งนี้เป็นความร่วมมือระหว่าง China Media Group สำนักงานเลขาธิการฟอรั่มเอเชียโป๋อ๋าว สมาคมการทูตสาธารณะแห่งประเทศจีน ภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงานสารนิเทศแห่งคณะรัฐมนตรีจีน ผู้แทนองค์กรสื่อมวลชนจาก 47 ประเทศในเอเชียและทวีปอื่นๆ กว่า 140 คน ร่วมกันแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับความร่วมมือขององค์กรสื่อมวลชนของเอเชียในยุคใหม่ เพื่อเสริมสร้างบทบาทของสื่อมวลชนเอเชียในโลก ตลอดจนการส่งเสริมให้อารยธรรมอันเก่าแก่ของเอเชียกลายเป็นซอฟท์พาวเวอร์ทางวัฒนธรรม

การประชุมครั้งนี้แบ่งเป็นประชุมกลุ่มย่อยตาม 4 หัวข้อ ได้แก่ "ความร่วมมือของสื่อมวลชนส่งเสริมการสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันในเอเชีย" " โครงการ Belt and Road กับโอกาสใหม่แห่งการสื่อสารระหว่างประเทศ" "40 ปี การปฏิรูปและเปิดประเทศ การพัฒนาของจีนกับโอกาสของโลก " "อารยธรรมเอเชียที่หลากหลายกับการแลกเปลี่ยนและเรียนรู้ซึ่งกันและกัน

นายเสิ้น ไห่สง ผู้อำนวยการ China Media Group หรือสถานีวิทยุกระจายเสียงและโทรทัศน์ส่วนกลางของจีนกล่าวในการเปิดงานว่า หลังจากประธานาธิบดีสี จิ้นผิง มีข้อริเริ่ม Belt and Road เป็นต้นมา ได้รับเสียงตอบรับจากหลายประเทศ ระหว่างการประชุมสุดยอดสื่อมวลชนเอเชียครั้งนี้ จะมีการเซ็นสัญญาความร่วมมือระหว่าง China Media Group กับองค์กรสื่อสารมวลชนจากประเทศในเอเชีย ยุโรป ทวีปอเมริกาและทวีปแอฟริกา เพื่อร่วมกันเสริมสร้างบทบาทของสื่อมวลชนเอเชียให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น

โดยผู้แทนองค์กรสื่อมวลชนของไทยที่ได้รับเชิญมาเข้าร่วมประชุมมี 3 ท่าน ได้แก่ นางสุมลพันธ์ โกศลสิริเศรษฐ์ ผู้อำนวยการส่วนผลิตรายการภาคภาษาอังกฤษ สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย นายชวรงค์ ลิมป์ปัทมปาณี ประธานสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติไทย และนายสุภลักษณ์ กาญจนขุนดี ผู้สื่อข่าวอาวุโสของหนังสือพิมพ์ The Nation นอกจากนี้ นายพินิจ จารุสมบัติ ประธานสภาวัฒนธรรมไทย-จีนและส่งเสริมความสัมพันธ์ อดีตรองนายกรัฐมนตรีของไทยได้รับเชิญมาร่วมงานในฐานะวิทยากรทางด้านการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม

นางสุมลพันธ์ โกศลสิริเศรษฐ์ ผู้อำนวยการส่วนผลิตรายการภาษาอังกฤษ สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวซีอาร์ไอหลังจากร่วมประชุมกลุ่มย่อยว่า

"ในฐานะผู้แทนของประเทศไทยและสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งชาติ ได้รับเชิญมาร่วมงานในครั้งนี้ ผ่านความร่วมมือกับสถานีวิทยุกระจายเสียงระหว่างประเทศหรือ CRI ของจีน รู้สึกยินดี ทำให้ได้ข้อมูลของการประชุมฟอรั่มเอเชียโป๋อ๋าวมากขึ้น ได้ดูข้อมูลย้อนหลังว่า การประชุมนี้มีความเป็นมาอย่างไร ซึ่งเป็นประโยชน์ในการทำหน้าที่ของสื่อมวลชน ที่จะนำข้อมูลข่าวสารของการประชุมครั้งนี้เผยแพร่ต่อให้คนไทยได้รู้จักมากยิ่งขึ้น และประทับใจในการจัดประชุมครั้งนี้ว่า สถานที่ก็เหมาะสม จำนวนของผู้เข้าร่วมเป็นสื่อมวลชนมีความหลากหลายจากทั่วโลก นับว่าประเทศเจ้าภาพได้รับความร่วมมืออย่างดี ทุกคนเชื่อมั่นเชื่อถือในการจัดงานของจีน หลายๆ หัวข้อที่แบ่งกลุ่มกันอภิปรายแลกเปลี่ยนข้อมูลกัน น่าสนใจทุกหัวข้อ ถ้าเป็นไปได้ อยากจะเข้าฟังทั้งหมด"

คุณสุมลพันธ์ในฐานะตัวแทนสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยได้กล่าวแสดงความคิดเห็นต่อหัวข้อ"40 ปี การปฏิรูปและเปิดประเทศ การพัฒนาของจีนกับโอกาสของโลก"ในที่ประชุมกลุ่มย่อย นายหู ปังเซิ่ง รองผู้อำนวยการซีอาร์ไอ ซึ่งเป็นผู้อำนวยการประชุมกลุ่มย่อยกลุ่มเดียวกัน ได้กล่าวตอบคุณสุมลพันธ์และผู้นำองค์กรสื่อมวลชนจากเกือบ 30 ประเทศที่ร่วมนั่งฟังในห้องประชุมว่า

"China Radio International(CRI)หรือ ซีอาร์ไอ กับสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยมีความสัมพันธ์ที่ดี ปีที่แล้วผมได้ไปเยือนกรมประชาสัมพันธ์ของไทย อธิบดีกรมฯ ตกลงกับผมว่าจะไปปีนกำแพงเมืองจีนด้วยกันในเดือนตุลาคมปีนี้ เมื่อสักครู่คุณสุมลพันธ์ได้ตั้งคำถามว่า หากจีนพัฒนาขึ้นมาเป็นประเทศที่เจริญที่สุดในโลก จะส่งผลยังไงต่อประเทศอื่นๆ คำตอบคือ หากเศรษฐกิจจีนพัฒนาถึงระดับชั้นนำของโลกแล้ว จะช่วยเหลือประเทศเพื่อนบ้านให้พัฒนาไปด้วยกัน จะถือประเทศเพื่อนบ้านเป็นญาติ ปฏิบัติต่อกันอย่างจริงใจ เอื้อประโยชน์แก่กันและช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ขณะนี้ นักท่องเที่ยวจีนเดินทางไปเที่ยวเมืองไทยมากเป็นอันดับหนึ่ง ปีที่แล้วถึง 9 ล้านคน สำนักข่าวซีอาร์ไอประจำภูมิภาคเอเชียก็ตั้งอยู่ที่กรุงเทพฯ ต่อไป สองประเทศจะมีการไปมาหาสู่กันมากขึ้น เหมือนการเยี่ยมญาติ วัฒนธรรมเอเชียมีจุดร่วมอย่างหนึ่งคือ เข้าใจและเคารพซึ่งกันและกัน สิ่งที่ตนไม่ประสงค์ จะไม่ยัดเยียดให้คนอื่น การพัฒนาของจีน จะเป็นประโยชน์ต่อประเทศในเอเชีย"

นายชวรงค์ ลิมป์ปัทมปาณี ประธานสภาการหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทยก็เป็นตัวแทนองค์กรสื่อสารมวลชนไทยอีกท่านหนึ่งที่ได้รับเชิญมาร่วมประชุม เขาให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า

"ต้องถือเป็นเกียรติอย่างสูงที่ได้รับเชิญมาร่วมงาน Media Leader Sumit for Asia ที่องค์กรสื่อใหญ่ของจีนจัดขึ้น มีผู้เข้าร่วมที่เป็นผู้นำขององค์กรสื่อจากหลายประเทศ ทำให้มีโอกาสได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็น ซึ่งจะนำไปสู่ความร่วมมือระหว่างองค์กรสื่อมวลชนในทวีปเอเชีย ซึ่งเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของเจ้าภาพจัดงานที่ต้องการเห็นความร่วมมือระหว่างสื่อมวลชนของประเทศต่างๆ ในเอเชีย เพื่อแสวงหาความร่วมมือไปสู่การพัฒนา ซึ่งจะทำให้ประชาชนในภูมิภาคเอเชียกินดีอยู่ดี มีความสุข ได้ใช้ชีวิตร่วมกันอย่างสันติสุข ทำให้ทุกประเทศสามารถพัฒนาและเจริญไปพร้อมๆ กัน"

นายพินิจ จารุสมบัติ ประธานสภาวัฒนธรรมไทย-จีนและส่งเสริมความสัมพันธ์ อดีตรองนายกรัฐมนตรีไทยได้รับเชิญมาร่วมประชุมในฐานะวิทยากรทางด้านการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม เนื่องจากทำงานเกี่ยวกับการส่งเสริมการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมระหว่างจีนกับไทยมาโดยตลอด ท่านจึงเห็นความเปลี่ยนแปลงของจีนตลอด 40 ปีที่ดำเนินการปฏิรูปและเปิดประเทศ และบทบาทของสื่อจีนบนเวทีโลก ท่านกล่าวว่า

"หลังจากสถาปนาประเทศจีนใหม่ขึ้นมา มีการปฏิรูปเปิดประเทศอย่างต่อเนื่อง ได้พัฒนาเศรษฐกิจจนแข็งแกร่ง มีความเจริญก้าวหน้าในทุกด้าน เศรษฐกิจของจีนเป็นตัวนำที่ทำให้เศรษฐกิจของประเทศในเอเชียได้รับผลกระทบที่เป็นบวกอย่างมาก ไม่ว่าสินค้าทางด้านอุตสาหกรรม เกษตร รวมทั้งการท่องเที่ยว และการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม โดยเฉพาะการเรียนภาษาจีน คนในเอเชียมีความต้องการในการเรียนรู้ภาษาจีนเป็นอย่างมาก นี่คือผลของการพัฒนาเศรษฐกิจของจีนที่มีต่อประเทศในเอเชีย"

นอกจากนี้ ท่านยังชื่นชมบทบาทของสื่อจีนว่า

"บทบาทของสื่อเอเชีย ตอนนี้เป็นประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของสื่อเอเชียโดยการนำของประเทศจีน เพราะในอดีตเป็นสื่อของประเทศตะวันตกเป็นส่วนใหญ่ แต่หลังจากจีนได้ปฏิรูปและพัฒนาสื่อขึ้นมา และได้สร้างสรรค์ช่องทางเป็นทุกภาษาในโลกนี้ ใครๆ ก็แล้วแต่ มีทางเลือกใหม่ ก็คือการเปิดดูเปิดฟังสถานีโทรทัศน์ วิทยุหรือหนังสือพิมพ์จากประเทศจีนในภาษาของแต่ละประเทศ ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง เพราะสื่อของประเทศจีนจะรายงานด้วยความยุติธรรม โปร่งใส ไม่ยึดถือผลประโยชน์ของใคร ยึดถือความยุติธรรมและความถูกต้อง ทำให้สื่อของเอเชียปฏิรูปและปฏิวัติ โดยเฉพาะสื่อของจีน รายงานทั่วโลก เหตุการณ์เกิดขึ้นที่ไหนทั่วโลก ได้รับรู้ทันที เมื่อก่อนสื่อของตะวันตก จะรายงานก็ได้ไม่รายงานก็ได้ บางอย่างที่ไม่เป็นประโยชน์เขาก็ไม่รายงาน แต่สื่อของจีนรายงานหมดทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในโลกนี้ ซึ่งถือเป็นการปฏิรูปปฏิวัติใหม่ และประเทศในเอเชียหลายประเทศก็มีการปฏิรูปสื่อด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ เพื่อขานรับการขับเคลื่อนในเรื่องของมีเดีย"

นางสุมลพันธ์ โกศลสิริเศรษฐ์ ผู้อำนวยการส่วนผลิตรายการภาคภาษาอังกฤษ สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย มีโอกาสร่วมพิธีเปิดประชุมฟอรั่มเอเชียโป๋อ๋าวและฟังการกล่าวคำปราศรัยของประธานาธิบดีสี จิ้นผิงร่วมกับผู้แทนจากวงการต่างๆ ทั้งจีนและต่างประเทศรวมหลายพันคน คุณสุมลพันธ์เล่าความประทับใจต่อผู้สื่อข่าวซีอาร์ไอว่า

"จากที่ได้รับฟังคำกล่าวของท่านประธานาธิบดีสี จิ้นผิง มีความประทับใจในหลายช่วง เท่าที่เห็น ผู้ฟังในห้องประชุม ปรบมือกันหลายรอบในทุกสิ่งที่ท่านได้พูด ในโอกาสที่ท่านแสดงวิสัยทัศน์ ท่านโชว์ความเป็นผู้นำแห่งเอเชีย สิ่งที่ท่านพูดไม่ใช่แค่ทิศทางของจีนที่จะประกาศนโยบายต่างประเทศอย่างเดียว แต่เหมือนกับท่านได้ชี้แนวทางของโลกที่แต่ละประเทศต้องร่วมมือกัน ท่านมองว่าแต่ละประเทศจะต่างคนต่างอยู่ ต่างค้าค่างขายไม่ได้แล้ว ต้องร่วมมือกัน ทั้งการค้าและการลงทุน และในการดำเนินกิจกรรมร่วมกัน ต้องเป็นแบบมาตรฐานเดียวกัน ต้องร่วมมือกัน ก็จะไม่มีการได้เปรียบเสียเปรียบกัน จะไม่ก่อให้เกิดสงครามทางการค้า นอกจากนั้น ท่านยังได้ให้คำมั่นสัญญาว่า โครงการ belt and road ถึงแม้จีนจะเป็นฝ่ายริเริ่ม แต่ท่านคาดหมายว่าทุกประเทศที่อยู่ในเส้นทาง belt and road จะได้พัฒนาไปพร้อมๆ กัน เพราะฉะนั้นไม่ใช่จีนฝ่ายเดียวที่จะบุกเข้าไปใช้ทรัพยากรของประเทศอื่นๆ ในความเห็นส่วนตัวของดิฉัน อยากให้ทุกสิ่งที่ท่านได้กล่าวไว้ในที่ประชุมเอเชียโป๋อ๋าวได้เกิดขึ้นจริง ทุกประเทศนำไปปฏิบัติจริง เอเชียจะได้ร่วมกันพัฒนาไปพร้อมๆ กัน "

ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
ตอบคำถามออนไลน์
ทบทวนรายการน่าสนใจ
ภาพยอดฮิต
เว็บไซต์ึเพื่อนซีอาร์ไอ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

Play Stop
© China Radio International.CRI. All Rights Reserved.
16A Shijingshan Road, Beijing, China. 100040